การสร้าง
ผ้าเช็ดตัวแบบใช้แล้วทิ้ง เป็นการเดินทางอันน่าทึ่งที่เริ่มต้นด้วยการจัดหาไม้ที่ยั่งยืนและจบลงด้วยผลิตภัณฑ์ที่นุ่มและดูดซับได้พร้อมสำหรับการใช้งานเพียงครั้งเดียว
1. การจัดหาไม้: การเดินทางเริ่มต้นด้วยการคัดเลือกไม้อย่างระมัดระวังจากป่าที่ได้รับการจัดการหรือฟาร์มต้นไม้ ไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้สนหรือเฟอร์ มักนิยมใช้เนื่องจากมีลักษณะเป็นเส้นใย ซึ่งช่วยให้ผ้าเช็ดตัวดูดซับและแข็งแรงได้
2. การทำเยื่อกระดาษ: เมื่อได้เนื้อไม้แล้ว จะเข้าสู่กระบวนการบดเนื้อและสับเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นเศษไม้เหล่านี้จะเข้าสู่เครื่องผลิตเยื่อกระดาษ ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นเยื่อกระดาษโดยการบดทางกลหรือวิธีทางเคมี การผลิตเยื่อเชิงกลจะคงเส้นใยเซลลูโลสดั้งเดิมไว้มากกว่า ในขณะที่การผลิตเยื่อกระดาษด้วยสารเคมีจะกำจัดลิกนินและสิ่งสกปรกอื่นๆ ออกไป ทำให้ได้เยื่อเซลลูโลสที่บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
3. การฟอกขาว (ไม่จำเป็น): เยื่อเซลลูโลสอาจผ่านกระบวนการฟอกขาวเพื่อให้ได้ระดับความขาวที่ต้องการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่ต้องการ ขั้นตอนนี้อาจเกี่ยวข้องกับวิธีการฟอกขาวแบบใช้คลอรีนหรือแบบไม่มีคลอรีน โดยวิธีหลังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าและเป็นที่ต้องการของผู้ผลิตหลายรายที่มุ่งมั่นในเรื่องความยั่งยืน
4. การสร้างเส้นใย: เยื่อเซลลูโลสบริสุทธิ์ผสมกับน้ำเพื่อสร้างสารละลาย ซึ่งจะถูกป้อนเข้าไปในเครื่องทำกระดาษหรือสายการผลิตนอนวูฟเวนแบบเปียก ในเครื่องนี้ สารละลายจะถูกกระจายออกไป และน้ำส่วนเกินจะถูกระบายออกไป เหลือเพียงแผ่นเส้นใยที่พันกันไว้
5. การอบแห้ง: แผ่นใยเปียกจะเคลื่อนผ่านชุดลูกกลิ้งที่ให้ความร้อนหรือห้องอบแห้งด้วยอากาศ เพื่อขจัดความชื้นที่เหลืออยู่และเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นใย กระบวนการทำให้แห้งนี้มีความสำคัญเนื่องจากไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณความชื้น แต่ยังช่วยเพิ่มการยึดเกาะของเส้นใย ส่งผลให้ได้แผ่นวัสดุที่เหนียวและทนทาน
6. การตกแต่งขั้นสุดท้าย: หลังจากการอบแห้ง แผ่นเส้นใยเซลลูโลสอาจผ่านกระบวนการเพิ่มเติม เช่น การรีดให้เรียบและอัดวัสดุ การนูนเพื่อสร้างลวดลายหรือพื้นผิว หรือการประยุกต์ทรีตเมนต์ เช่น โลชั่นหรือน้ำหอม สำหรับการใช้งานเฉพาะทาง เช่น กระดาษเช็ดหน้า หรือผ้าเช็ดทำความสะอาดเด็ก
7. การตัดและบรรจุภัณฑ์: ขั้นตอนสุดท้ายคือการตัดแผ่นแห้งออกเป็นชิ้นขนาดเท่าผ้าเช็ดตัว จากนั้นจึงบรรจุเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเป็นผ้าเช็ดตัวแบบใช้แล้วทิ้ง ผ้าเช็ดตัวเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาให้ดูดซับ ความนุ่มนวล และความทนทานได้ดีกว่า ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัยและการดูแลส่วนบุคคลที่จำเป็น